วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

น้ำมันหอมระเหยสู้ไมเกรน Aromatherapy for Migraine


        ทำไมเขียนเรื่องไมเกรนอีกแล้วล่ะ ?? ตอบได้คำเดียว คนที่ผมรักมากๆเค้าเป็นไมเกรนคับ ไม่อยากเห็นเค้าปวด ทรมาณ และอยากให้คนที่เป็นได้ประโยชน์ด้วย ไหนๆก็ทั้งร่ำเรียน พร่ำอ่านเตรียมสอบ หากความรู้ที่กำลังจะต้องเอาไปสอบวิชา Pharmacognosy เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย ก็ดีใจครับ

        สำหรับเรื่องของศาตร์การใช้น้ำมันหอมระเหยไว้จะเขียนให้ละเอียดวันหลังนะครับ วันนี้ขอโฟกัสเฉพาะเรื่องไมเกรนก่อน ยาวไปกลัวจะเบื่อครับ เอาหล่ะ ไปพบกันเลย


อันแรก คือ น้ำมันเทียนสัตตบุศย์ (anise oil) หรือที่เราคุ้นชื่อในนามโป๊ยกั๊ก นั่นเอง


น้ำมันโหรพา (sweet basil oil)

น้ำมันตะไคร้หอม(citronella oil) 


น้ำมันคาร์โมไมล์(chamomile oil)


น้ำมันเบอร์กามอต หรือมะกรูดฝรั่ง (bergamot oil)


น้ำมันลาเวนเดอร์ (lavender oil)


น้ำมันเปปเปอร์มิ้น หรือ สระแหน่ (peppermint oil)


น้ำมันมะลิ(jasmine oil)



น้ำมันโรสแมรี่ (rosemary oil)


น้ำมันยูคาลิปตัส (eucalyptus oil)

       จริงๆจะเขียนสรรพคุณทั้งหมดนะ แต่ขี้เกียจ ^^ เอาเป็นว่า วันนี้เฉพาะเจาะจงว่ามันช่วงบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ก็แล้วกันเนอะ ต่อไปรู้แล้วก็ไปเสาะหากันดีกว่า 


อันดับแรก แบบง่ายๆ คือ เลือกซื้อที่ร้านนั่นเอง ควรเลือกร้านที่ได้มาตรฐาน ไว้ใจได้ มีใบรับรองนะครับ น้ำมันหอมระเหยบางชนิดมีราคาแพงมาก และส่วนใหญ่ค่อนข้างมีราคา เราต้องตรวจสอบให้ดี ร้านที่วางขายตลาดนัดมักเป็นกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่งไม่ให้ประโยชน์ทางการรักษา นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย 


ไปสปา อันนี้สำหรับคนกระเป๋าหนักหน่อย เลือกสถานที่บริการได้รับอนุญาติ สะอาด ได้มาตรฐานนะครับ


ปลูกมันซะเอง อันนี้ชัวร์ๆ ประหยัดด้วย พืชหลายๆชนิดปลูกไม่ยาก และเราใช้เป็นผักสวนครัวได้อยู่แล้วเช่น สระแหน่ โหรพา กระเพรา มะนาว มะกรูด ตะไคร้ หรือไม้ดอกไม้ประดับ เช่น มะลิ


ได้มาพร้อมแล้วก็ได้เวลาเสพย์ซินะ มาดูกันดีกว่าว่าใช้ยังไง?


หยดลงในตะเกียงอโรมา 


หยดในชามที่มีน้ำร้อนและอังระยะประมาณ 1 ฟุต อาจคลุมด้วยผ้าขนหนู


การใช่แท่งไม้ช่วยกระจายน้ำหอม


ไฮโซหน่อยก็ใช้เครื่องช่วยกระจายน้ำมันหอมระเหย

ไฮเทคหน่อยก็มีแบบยูเอสบี นะ 555


นำมาประกอบอาหาร 

ผสมน้ำอาบหรือแช่ตัว 


ผสมน้ำอุ่นแช่เท้า 


ผสมเป็นน้ำมันนวดตัว 

      เห็นมั๊ยล่ะครับ วิธีใช้หลากหลายจริงๆ คราวนี้เรามารู้วิธีการผสม และสูตร ในการผสมเพื่อใช้ตาวิธีข้างต้นดีกว่าครับ น้ำมันหอมระเหยเนี่ย เราไม่ควรใช้เดี่ยวๆ เพราะการรับอะไรเดี๋ยวๆปริมาณมากย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน ดังนั้นเราควรผสมครับ มีหลักการง่ายๆที่ผมชอบใช้ ไม่ต้องอิงทฤษฎีมาก คือ น้ำมันระเหยเร็ว 1 หยด และน้ำมันระเหยปานกลาง 2 หยด และน้ำมันระเหยช้า 1-2 หยด หากใช้กับการกระจายกลิ่น และ ผสมกับน้ำมันพื้น เช่น น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกเป็นต้น เพื่อใช้ในการนวด 

       มาดูสูตรที่ผมใช้บ่อยสำหรับบรรเทาอาการปวดหัวนะครับ ซึ่งสูตรนี้ บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้อีกด้วย อันนี้โน้ตเอียงไปทางสูงนิดนึงนะครับ เพราะน้ำมันที่อยู่ในกลุ่มบรรเทาไมเกรนอยู่ในประเภทโน้ตสูงเป็นส่วนใหญ่ 

ลาเวนเดอร์ 1 หยด
ยูคาลิปตัส 1 หยด
โหรพา 1 หยด
ตะไคร้หอม 1 หยด
มะลิ 2 หยด
เทียนสัตตบุษย์ 2 หยด
**จริงๆเปปเปอร์มิ้นท์ด้วยก็ดีนะ แต่กัสเป็นลมชัก เปปเปอร์มิ้นเป็นสิ่งต้องห้าม ^^

       หากหาอะไรไม่ได้ ก็ลองผสมเท่าที่มี ดูกลิ่นที่ชอบและรู้สึกว่าได้ผลที่สุด ผมว่าการผสมน้ำมันหอมระเหยเป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ สนุกดีด้วย ในห้องผมมีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า 30 ชนิด ไว้ยาเครียด หดหู่ นอนไม่หลับ ปวดหัวหรือแม้แต่วิตกกังวล น้ำมันหอมระเหยช่วยเราได้เป็นอย่างดี

       สำหรับใครที่ชอบแบบผม มีสิ่งที่พึงระวังคือ ใช้ในปริมาณน้อยๆ และผู้ที่มีโรคประจำตัวและมีประวัตการแพ้อะไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน  เพื่อความปลอดภัย อย่าคิดว่าทุกสิ่งที่มาจากธรรมชาติปลอดภัย นอกจากนี้การเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยก็ควรมาจากแหล่งที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย น่าเชื่อถือ 


       ส่วนใครอยากอโรมา อโรคา แบบง่ายๆ แนะนำให้ปรุงเป็นอาหาร เช่น ผัดกระเพรา ต้มยำกุ้ง ไข่พะโล้  ยำใบไม้ สลัดผัก เป็นต้น หรือเครื่องดื่มเช่น โมฮิโต้ น้ำผลไม้ปั่น ทานไปด้วย สดชื่นกับกลิ่นไปด้วย แค่คิดก็สดชื่นแล้วครับ  

      แถมสูตรประจำที่ผมใช้นะครับ  

ลาเวนเดอร์2หยด 
ยูคาลิปตัส 1 หยด 
ลงบนหมอน(ข้างๆพอนะครับ) ก่อนนอน หลับสบาย 

เกลือ2ช้อนโต๊ะ 
น้ำมันตะไคร้ 5 หยด 
ยูคาลิปตัส 2 หยด 
ลาเวนเดอร์ 1 หยด   
ลงในกะละมังขนาดพอเท้าสองข้างลงแช่ มีน้ำอุ่นมาก(พอทนได้) แช่ชิลล์ๆ หลังเดินชอปปิ้งขาลาก หรือยืนทำงานจนเมื่อยตุ้ม ตื่นเช้ามาหายปวดเมื่อย เดินปร๋อแน่นอน 

ลาเวนเดอร์ 1 หยด 
มะกรูด 1 หยด 
ส้ม 1 หยด 
มะลิ 1 หยด 
ผสมน้ำมันแอลมอนด์ 100 มิลลิลิตร นวดตัวหลังอาบน้ำ ยามวันที่หดหู่ ตึงเครียด ให้สดชื่นมีชีวิตชีวา 


     สุดท้าย ผมก็เขียนยาวเหยียดจนได้ - -" หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะครับ ด้วยอานิสงส์จากความรู้อันอาจก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น ขอให้น้องสาวผมหายจากการเป็นไมเกรน หรือมีอาการน้อยที่สุด 
     ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับทุกคน อย่าเจ็บอย่าจน สวัสดีครับ 

Gusstation

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น