วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แอปเปิ้ลคือ นิพพาน !!

แอปเปิ้ลคือ นิพพาน !!


ทำไมไม่ซื้อไอโฟนไปเลยล่ะ
แซมซังเครื่องนั้นก็สองหมื่นกว่าแล้วหนิ เพิ่มอีกนิดเดียวเองก็ได้ไอโฟนแล้ว
ซื้อคอมทั้งที ซื้อแมคไปเลยสิ
แกดูสิ แม่ค้าส้มตำนั่น มีไอแพร๊ดใช้เชียวนะ ฮายยยโซววว


          มีคนไม่น้อยในบ้านนี้เมืองนี้ ที่ยึดติดว่าสิ่งของพวกนี้เป็นเครื่องบ่งฐานะ เป็นเครื่องชี้ความเป็นคน ผมมองว่าคนเหล่านี้เป็นทาสเทคโนโลยีนะ ไม่ใช่ผู้ใช้เทคโนโลยี ใช้แล้วชีวิตง่ายขึ้น ใช้แล้วมีความสุขมากขึ้น ใช้แล้วเกิดการเพิ่มพูนประโยชน์ ประยุกต์ใช้อย่างฉลาด ไม่ใช่ถือแกว่งโก้ๆกระหยิ่มใจ ว่าตนใช้ไอโฟนเชียวนะ เหยียดหยามคนอื่นไปวันๆนึง คือก็ไม่เข้าใจว่ารู้จักอยู่ยี่ห้อเดียว ไม่เคยสัมผัสอย่างอื่นเลยในชีวิต หรือมอง แล้วมันไม่โก้หรู ไม่เซเลป ใครใช้ยี่ห้ออื่นนี่กากจัง อยากให้เปิดหูเปิดตา มองโลกกว้างๆ มีคนมีความรู้ มีเงิน หลายคน เลือกเพราะตัวเองชอบ เลือกเพราะตอบโจทย์ ตอบสนองชีวิตประจำวัน อย่าเอากะลาแคบๆของตัวเอง มาตีกรอบทั้งสังคม ว่ามันต้องอย่างนี้ มันต้องอย่างนั้น ทุกอย่าง มีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับว่าเหมาะกับเรามากแค่ไหน บางคนยังใช้บีบี เพราะชอบโปรแกรมสนทนา ของ บีบี รวมถึงกลุ่มบุคคลที่ต้องติดต่อด้วยใช้ ทำให้ทำงานสะดวก บางคนเลือกไอโฟนเพราะแอพพลิเคชั่นที่ต้องการใช้รองรับไอโอเอสชอบงานประกอบ ชอบดีไซน์ บางคนเลือกแอนดรอยด์ หลายๆยี่ห้อเพราะความยืดหยุ่น ชอบจอใหญ่เบิ้มๆเลือกโน้ต ชอบกล้องสวยๆของโซนี่ หรือแม้แต่หลงใหลในวินโดว์โฟน เป็นสาวกโนเกีย หรือจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ที่แค่ฟังชันนัลโฟนธรรมดาๆ ก็ตอบสนองชีวิตเค้าได้แล้ว นั่นคือความเหมาะสม และความพึงพอใจของแต่ละบุคคล มุมมองจากเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้มันสะท้อนถึงความคิด ถึงทรรศนะคติ เลยนะ ว่ามองคนจากอะไร นับถือคนจากอะไร จะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เจอประโยคอะไรแบบที่กล่าวไว้ข้างต้น สรุปคือที่เขียนมาคือจะบอกว่าไม่ใช่จะว่าไอโฟนไม่ดี หรือคนใช้ไอโฟนไม่ดี แต่อีคนที่มีความคิดแบบแบ่งแยกชนชั้นด้วยไอโฟนเนี่ย ประหลาดมนุษย์ 

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ถ่ายไม่ออก!!บอกฉันทำไม???

ถ่ายไม่ออกบอกฉัน!!! ทำไม??




            หลายวันมานี้มีแต่คนปรึกษาเรื่องท้องผูกนะ เอางี้ละกัน เล่าทีเดียว นี่เล่าตามประสบการณ์เลยนะ ไม่เอาครบถ้วนตามหลักวิชาการ เอาตามวิธีของกัสเองเลยนะ
ปกติเป็นคนถ่ายยากตั้งแต่เด็กๆ แม่เล่าว่ามีสิ่งหนึ่งที่กัสตอบสนองได้ดีเป็นพิเศษคือส้มโอ เวลาท้องผูกนี่แม่ต้องวิ่งวุ่นหา ส้มโอมาให้ นี่ก็นั่งขำตอนแม่เล่า แม่บอกอย่างอื่นไม่ช่วยจริงๆนะ พอโตมาโชคดีหน่อยที่เป็นคนชอบทานผัก ผลไม้ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา แต่พอเข้ามาอยู่ประเทศรังสิตนี่สิ ผักผลไม้ ดูจะหาทานยากไปหน่อย ในอาหารตามสั่งอย่าหวัง จามทีปลิวหายหมดละมั้ง ซื้อผักสดโลตัสก็สามต้นยี่สิบนี่ คิดๆแล้วแพงกว่าหมูอีกนะ ผลไม้ก็มหาโหด ซื้อสับปะรดชิ้นนึง มะม่วงลูกนึงก็หมดละ 40 อยู่บ้านมะละกอหลังบ้านไม่เคยได้ซื้อ กินทีละเป็นลูกๆ ยายปอกไว้รอกลับจากโรงเรียนมากินหลังข้าวเย็นเลย เนี่ยแหละ ชีวิตที่รังสิตวันไหนทานผักน้อยเลยเกิดการท้องผูกจนได้

           ร่ายมายาวเข้าเรื่องเลยนะ ปกติจะพยายามทานผักผลไม้ให้ได้เยอะๆในมื้ออาหาร ถ้าทำไม่ได้ ส่วนใหญ่จะต้องมีมื้อนึงที่ได้ใยอาหาร สะดวกที่สุดคงเป็นแมงลัก เอามาแช่น้ำทิ้งให้ให้พอเต็มที่แล้วซดเปล่าๆเลย ใครทำใจกินไม่ได้ก็ผสมน้ำหวาน น้ำเต้าหู้อะไรก็ได้นะ กินพร้อมๆกับมื้ออาหาร หรือหลังอาหารทันทีให้มันไปคลุกๆกับอาหารในท้อง จะได้ถ่ายสะดวก

          อย่างที่สองที่ทานแล้วพบว่า ดีจริงคือ น้ำมะเขือเทศดอยคำ วันละกล่องสองกล่องนี่ ขับถ่ายดีจริงๆนะ มีไลโคพีนสูงด้วย


          อย่างที่สามคือ ยาคูลล์ วันละสองขวด นี่ สุดยอดจริงๆ แอคทีเวียเราลองแล้ว เราไม่ตอบสนอง อะไรก็ไม่สู้ แลโตบาสิลัส บัลการิคัส แอล คาเซอิ ชิโรต้า สายพันธุ์พิเศษจากยาคูลล์ ถามสาวยาคูลล์สิค่ะ 555


          อย่างที่สี่ นี่สำคัญมากๆ บางคนบอกลองทุกอย่างแล้ว ก็ยังท้องผูก นี่บอกเลย ไม่ออกกำลังกายใช่มั๊ย!!! การออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหว บีบตัวได้ดีขึ้น นี่ถ้าลองหมดนี่แล้วไม่หายไปหาหมอเถอะ ไส้ตันแล้วมั้ง 555
          อย่างที่ห้า พยายามตื่นเช้า(อันนี้ทำไม่สำเร็จ เหอะๆ)  ปวดแล้วถ่าย อย่าอั้น ถ้าไม่จำเป็น

          สุดท้าย วิธีทั้งหลายเหล่านี้ต้องทำติดต่อกันเป็นนิสัย ไม่ใช่วันสองวันจะดีขึ้น การทานแมงลักใช่จะกินแล้วปวดถ่ายเลย ต้องใช้เวลาให้มาถึงหน้าด่านก่อน และสำคัญมากไม่แนะนำการทานยาถ่าย ทุกชนิดที่กระตุ้นการบีบตัวลำไส้ เช่น bisacodyl รวมถึงยาสมุนไพรพวกมะขามแขก ต่างๆ ที่กินแล้วปรู๊ดปร้าดดด คือใช้เฉพาะกิจได้ ใช้ระยะยาวจะเกิดการพึ่งยา ลำไส้เฉื่อย ต่อไปไม่กินไม่ถ่าย แล้วก็ต้องเพิ่มปริมาณไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น


ขอให้ทุกคนโชคดี ขับถ่ายสบายก้น 5555

Gusstation

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

ดูแลผิวหลังสงกรานต์




      หลังจากสนุกสนานกันในวันสงกรานต์แล้ว หลายคนคงประสบปัญหาผิว ไม่ว่าจะเกิดจากแสงแดดเปรี้ยงๆ หรือ น้ำ ดินสอพองที่ไม่สะอาด หรือการแพ้สารทำโฟม อีกทั้ง การที่ผิวเราเปียกอยู่เป็นเวลานานๆ ทำให้ผิวเราอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ง่ายเช่นกัน 

      ก่อนอื่นเมื่อเล่นน้ำเสร็จ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผม ฟอกสบู่ ให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วมาสำรวจผิวตัวเองดูก่อน

      ถ้า คุณมีผื่นแพ้ ผื่นคัน ส่วนใหญ่มักเกิดแบบฉับพลัน อาจเกิดจาก การสัมผัสสิ่งสกปรก หรือ สัมผัสส่งที่ก่อให้เกิดการแพ้ งดเกา ทนให้ได้!!  เบื้องต้นให้รับประทานยาแก้แพ้  บริเวณที่เป็นผื่น ประคบด้วยน้ำเย็น หรือทาคาลาไมด์โลชั่น หรือ ใบพลูตำกับเหล้า ก็ได้เช่นกัน หากอาการไม่ทุเลา แนะนำให้รีบไปพบแพทย์

      ถ้าผิวไหม้แดด ปวดแสบ ปวดร้อน เบื้องต้น ใช้น้ำเย็น ชุบผ้าขนหนูประคบ ถ้ามีว่านหางจระเข้ นำมาปอก ล้างยางเหลืองๆออก แล้วนำวุ้นมาแปะ หรือสะดวกกว่านั้น คือ เจลว่านหางจระเข้ ของไฟโตแคร์ หลอดละสามสิบกว่าบาท ทาบริเวณที่เกิดอาการ แล้ว ทาซ้ำเรื่อยๆ หากยังแสบร้อน ถ้าอาการไม่ทุเลา แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ 

      ไม่ว่าจะผื่นคัน หรือแสบร้อน งด ครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมของสารเร่งผลัดเซลล์ผิวทุกชนิด เช่น AHA BHA Retinol กรดวิตามินเอ รวมไปถึงมะขามเปียก มะเขือเทศ หัวไชเท้า นี่ก็ห้ามเอามาแปะหน้านะ 

      ขณะทำความสะอาดผิว ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน งดสครับ งดขัด งดถูแรงๆ เบามือที่สุดนะครับ รอให้ผิวฟื้นตัว ค่อยมาจัดหนักอีกที

      ส่วนใครสิวเห่อ สิวอุดตัน ขึ้นมา อย่างรวดเร็ว แบบไม่เคยมีมาก่อน แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุดนะครับ สิว รักษาง่ายกว่ารอย นะครับ จากที่จะเสียหลักร้อย จะได้ไม่บานเป็นหลักหมื่น 

      ส่วนคนทั่วๆไปที่ไม่เป็นผื่น แค่แสบๆผิวจากแดด คล้ำๆหมองๆธรรมดา แนะนำให้อาบน้ำเย็นนะครับ เป็นการปรับสมดุล สูตรแนะนำคือ
       -แตงกวา ใช้แตงกวาหั่นบางๆแปะหน้า หรือปั่นนำน้ำมาทาบางๆ และทาซ้ำๆ ก็ช่วยได้ 
       -นมสด หลังอาบน้ำชะโลมให้ทั่วตัว นั่งฟังเพลงชิลๆรอ15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ก็ช่วยได้ 
       -ว่านหางจระเข้ ปอกวุ้นล้างยางสีเหลืองออก นำมาทาๆให้ทั่ว หรือใช้เจลว่านหางจระเข้ตามร้านยาก็ได้
       -น้ำผึ้ง ผสมน้ำผึงกับนมสด พอกหน้า ก็ได้ (เป็นสิวง่ายหลีกเลี่ยงสูตรนี้)

      หลังจากนั้น ทาโลชั่น ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด โลชั่นนี่ไม่ต้องแพงอะไรมากมายก็ได้นะ เภสัชขวดละสามสิบที่เซเว่นก็ได้ นะ ทาบ่อยๆ อย่าขาด 

       การรับประทานอาหารก็สำคัญ นะ ผัก ผลไม้ โปรตีน คอลลาเจน ไปซ่อมแซมผิวที่เสียหาย ทานน้ำให้พอ จิบเรื่อยๆ อย่าให้ขาด งดนอนดึก ให้ผิวฟื้นซะหน่อย 

       หลังจากนี้ 3-4 สัปดาห์ เมื่อผิวเริ่มปกติดี ค่อยจัดการความหมองคล้ำ ด้วย สครับ กรดผลไม้ หรือ มะขามเปียก แล้วบำรุงผิวด้วยโลชั่น ไวทเทนนิ่งปกติ อย่าลืม กันแดดสำคัญมาก แค่นี้ผิว ก็กลับมาสดใส อีกครั้ง

      สุดท้ายนี้ผมก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจ สดใสรับปีใหม่ไทย นะครับ ^^



Gusstation