บ่ายๆวันนี้ นายชินจัง(ปกติเรียกไอ้ชิน 555)เพื่อนที่หอ เด็กดอยแม่ฮ่องสอนไปเที่ยวอุดรทำนา เลยเอาผลไม้ลูกสีเหลืองๆกลิ่นหอมๆมาให้กัส 4 ลูก มันบอกตอนเด็กๆมันแกะแล้วเอามือควักดูดๆเอา รู้สึกรับไม่ได้ที่จะกินแบบเดียวกัน ^^ งั้นเอามาคั้นน้ำดีกว่ามั๊ย ว่าแต่เรามาทำความรู้จัก 4 ลูกนี้กันก่อนดีกว่า
เจ้านี่ก็คือ "เสาวรส" (Passion fruit) หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า กะทกรกฝรั่ง กระทกรกสีดา หรือสุคนธรส, Jamaica Honeysuckle, Yellow Granadilla เป็นไม้ผล ประเภทเถาเลื้อย อยู่ในตระกูล Passifloraceae โดยมีลักษณะลำต้นเป็นเถา มีมือเกาะออกตามซอกใบ ดอกหอม และเมื่อผลสุกจะ มีสีต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากใน ประเทศไทยมี 3 พันธุ์คือ ผลสีเหลือง ผลสีม่วง และพันธุ์ผสม สายพันธุ์ที่ชินจังเอามาจากอุดรกัสเดาว่าน่าจะเป็นพันธุ์สีเหลืองหรือไม่แน่ก็ผสมนะคับเพราะเปลือกแข็งมากก
ประโยชน์ก็มีมากมายมหาศาล ในฐานะเรียนมาสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ขอพูดถึงสรรพคุณทางยาหน่อยละกัน
ยอด ใช้เป็นผักสด มีรสขมเล็กน้อย หรือลวกจิ้มกับน้ำพริกและใช้แกงเลียง ผล ใช้กินเมล็ดและเยื่อหุ้มเมล็ด ทางด้านสมุนไพร เนื้อไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิดและใช้รักษาบาดแผล ราก ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข แก้กามโรค ใบ ใช้ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อและขับพยาธิ ดอก ขับเสมหะ แก้ไอ ผล แก้ปวด บำรุงปอด ใบสด ใช้พอกแก้สิว ต้น ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ และอาการบวม
กล่าวถึงทั้ง ต้นเสาวรส มาแล้ว คราวนี้ก็มาถึงส่วนที่กัสกำลังจะนำมากิน นั่นคือส่วนของ ผลของเสาวรส อ๊ากกก ไม่สิ พูดเฉพาะเจาะจงกว่านั้นดีกว่า จริงๆเรากินส่วนที่เรียกว่า เยื่อหุ้มเมล็ดของเสาวรส คับผม ก่อนรู้ประโยชน์ของน้ำเสาวรสเรามาทำดื่่มลิ้มรสชาติ เปรี้ยว อมหวาน หอม สดชื่น จิบพลางอ่านไปพลางดีกว่า ว่าแล้วก็จัดการเลยยย
สูตรการทำน้ำเสาวรสก็มี
เสาวรส 4 ลูก
น้ำเชื่อม (กัสใช้น้ำตาลทรายแดงน๊า)
เกลือเล็กน้อย
น้ำต้มสุกสองถ้วยตวง
พร้อมแล้ว ลุยยยย !!
ล้างๆๆๆ ผลเสาวรส แล้วเอามาผ่าๆๆๆ เป็นซีกตามขวางแบบนี้นะคับย๊ากกก ถึงขั้นต้องเปลี่ยนไปใช้อีโต้ เนื่องจากเปลือกแข็งมาก - -"
เสร็จแล้วก็เอาช้อนควักมันออกมา ให้หมด ควัก!! เค้าใช้คำนี้ป่ะ เดี๋ยวกลายเป็นว่าใช้ภาษาถิ่นอีก ฮ่าๆๆ ค่อยเขี่ยออกมานะ มันง่ายมากกก โอ๊ยยย หอมๆๆๆ น้ำลายมารอละ
ใส่น้ำต้มสุกลงไปแล้วใช้ช้อนคนๆบี้ๆเมล็ดเสาวรสให้เข้ากันดี
จากนั้น ก็นำมากรองบีบบบบบบ แรงงๆๆๆๆ แรงอีก แรงอีก จนหมดแบบนี้ อย่าลืมล้างมือหรือใส่ถุงมือก่อนล่ะ เราก็จะได้ น้ำเสาวรสเข้มข้น พร้อมแต่งรสให้โดนใจโจ๋
เราก็เอาน้ำเชื่อม กับเกลือที่เตียมใว้ ใส่ลงไป คนๆๆๆๆๆๆๆๆ ชิมรสและปรุงตามใจชอบ เกลือใส่หน่อยเดียวพอนะ ให้มันกลมกล่อม อย่าเยอะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน 555
แค่นี้ก็ได้น้ำเสาวรส สดใหม่ เข้มข้น อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ จะดื่มเลย แช่เย็นไว้ดื่ม ใส่น้ำแข็งดื่ม ก็ตามอัธยาศัยเลยครับท่านผู้ชม พิมพ์ไปจิบไป :P
หลังจากได้น้ำเสาวรสพร้อมจิบแล้วก็มาอ่านประโยชน์สุดมหรรศจรรย์
ของน้ำเสาวรสกันดีกว่า แบบอ่านไปจิบน้ำเสาวรสไป จะได้ทราบซึ้ง
สดชื่น และรู้สึกดีในทันที แลดูเป็นยาวิเศษ 555
คุณค่าทางโภชนาการ
ส่วนประกอบทางเคมีของน้ำเสาวรส ประกอบด้วยน้ำประมาณ 76-85% ของแข็งที่ละลาย
ได้ประมาณ 17.4% คาร์โบไฮเดรตประมาณ 12.4% กรดอินทรีย์ประมาณ 3.4% นอกจากนั้นมี
แคโรทีนอยด์ สารประกอบไนโตรเจน สารประกอบที่ให้กลิ่น วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งเอนไซม์
ซึ่งมีข้อมูลแสดงสารอาหารดังนี้
ตารางที่ 1 Nutritional Information (1fl oz 30 มิลลิลิตร)
Calories (kcal)
|
15
|
Fiber
|
0.1 g
|
Energy (kj)
|
62
|
Sugars
|
4.1 g
|
Protein
|
0.1 g
|
Sodium
|
1.9 g
|
Carbohydrate
|
4.2 g
|
Fats
|
0 g
|
และผิวพรรณ จากการศึกษาพบว่า มีวิตามินซีค่อนข้างสูง คือ 39.1 mg/100 g ของน้ำเสาวรส
ซึ่งมากกว่าที่พบในมะนาวและพบสาร albumin-homologous protein จากเมล็ดของผลเสาวรส
ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ และยังมีสรรพคุณ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ลดไขมัน
ในเส้นเลือด และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปรับสมดุลในร่างกายลดอาการวิงเวียนคลื่นไส้ สร้างภูมิคุ้มกันโรค กำจัดสารพิษในเลือด บำรุงผิวพรรณ และช่วยฟื้นฟูตับและไตที่อ่อนแอ แค่นั้นยังไม่พอ รสเปรี้ยวของเสวรสช่วยบรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ เดี๋ยวๆยังมีอีก วารสาร “โภชนาการวิจัย” ของออสเตรเลีย ยังรายงานว่า น้ำผลเสาวรสคั้นมีสรรพคุณช่วยลดอาการเสียงหายใจหวีดและไอของคนเป็นหืด และยังช่วยลดความดันโลหิตลงได้ด้วย
โอ้ววว เสาวรสนี่สรรพคุณมากล้น ราคาไม่แพง หากินง๊ายง่าย ใครกำลังกินน้ำเสาวรสอยู่ก็ซดให้หมดแก้วตอนนี้เลยคับ ส่วนใครได้แต่นั่งอ่าน พลาดไม่ได้แล้วนะคับ รีบไปหาน้ำเสาวรสมาทานแบบด่วนๆ ผมขอตัวไปดื่มน้ำเสาวรสให้สดชื่นก่อนนอนสักแก้ว จะได้หลับสบายละคืนนี้ ราตรีสวัส หลับฝันดีคับผม ;)
Gus station
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.gpo.or.th/rdi/html/passionfruit.html
http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/news/4462
http://www.learners.in.th/blogs/posts/422313
http://th.wikipedia.org/wiki/กระทกรก
http://board.palungjit.com/f9/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AA-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94-241804.html
http://www.thaitreeflowers.com/view.php?id=20110920145944.0